ยามที่ไปสู่หน้าหนาวในครั้งใด ซึ่งก็คือในขณะที่ต้นตีนเป็ดจะออกดอกผลิบานกันซักคราว
ด้วยกลิ่นอันมีเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลอันสะดุดตา ที่บางบุคคลก็ถูกใจหรือบางบุคคลก็รังเกียจ หรือแม้กระทั้งแพ้อย่างแรง ถ้าว่ามันกลายเป็นอีกมนต์เสน่ห์หนึ่ง ที่เชื้อเชิญให้นึกถึงในบรรยากาศหนาวๆอย่างงี้ โดยความน่าดึงดูดใจของพรรณไม้ที่คนไม่ใช่น้อยเรียกกันชินปากว่าต้นตีนเป็ดนั้น มิได้มีเพียงแค่กลิ่นของดอกเพียงแค่นั้น แต่แรกเริ่มตีนเป็ดยังมีคุณประโยชน์ทางยา รวมทั้ง ยังเป็นพืชที่มีความมงคลอีกประเภทหนึ่งด้วย
ต้นตีนเป็ดมีชื่อด้านวิทยาศาสตร์ว่า Alstonia scholaris รวมทั้ง ชื่อทางสากล Devil Tree ส่วนชื่อที่ชาวไทยเรียกนั้น มิได้มีเพียงแต่ชื่อ ตีนเป็ดแต่อย่างเดียว ยังมีชื่อเรียกว่า สัตบรรณ หรือ พญาสัตบรรณ ที่คนประเทศไทยนิยมเรียกอย่างเป็นทางการ
ซึ่งมีลักษณะเป็นไม้ยืนต้นสูง ถูกจัดอยู่ในสกุลโมก มีขนาดลำต้นสูงราวๆ 30-40 เมตร ในตอนที่ใบของต้นตีนเป็ดเป็นชนิดเลี้ยงลำพัง ลักษณะเรียบมันลื่น เป็นวงรี ลำต้นถูกหุ้มห่อด้วยกาบไม้หน้าแข็งเป็นเกล็ด แล้วก็มีแก่นไม้มีลักษณะขาวอมเหลืองให้ผลเป็กฝัก ส่วนดอกนั้นจะออกมาในลักษณะช่อดอกสีขาวอมเหลือง ก้านดอกสีเขียวอ่อน
แต่ว่าแม้ว่าดอกที่ออกมาในลักษณะที่ดูนุ่มนวล แม้กระนั้นกลิ่นของดอกในช่วงเวลากลางคืนนั้น ค่อนข้างจะแรงมากมาย ถ้าหากผู้ที่เฉยๆกับกลิ่น หรือคิดว่าหอมก็รอดไป แต่ว่ากับผู้ที่รังเกียจกลิ่นนี้ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ทรมาณมากมาย จนกระทั่งขั้นมีลักษณะแพ้ได้ เพราะเหตุว่ามีกลิ่นฉุนและก็ขยายเป็นวงกว้าง ยิ่งถ้าหากพบลมปะทะเข้าละก็กลิ่นจะฟุ้งกระจายไปทั่วทุกรอบๆ